การศึกษาระดับมัธยมศึกษา ประเทศออสเตรเลีย

แผนผังเปรียบเทียบระบบการศึกษาระดับมัธยมของออสเตรเลีย และไทย

หลักสูตรการเรียนมัธยมในออสเตรเลีย

โดยทั่วไปแล้วโรงเรียนจะรับนักเรียนเข้าเรียนต่อในชั้นเรียนตามอายุที่เหมาะสม โดยเฉพาะอย่างยิ่งตามระดับการศึกษาที่นักเรียนต่างชาติจบมา ตัวอย่างเช่น นักเรียนจบมัธยมศึกษาปีที่ 3 จากประเทศไทยสามารถเรียนต่อในชั้นปีที่ 10 ของออสเตรเลียได้เลย แต่อาจมีข้อยกเว้นสำหรับนักเรียนที่มีปัญหาเรื่องผลการเรียนและความสามารถด้านภาษาอังกฤษ รายวิชาที่บรรจุในหลักสูตรสำหรับมัธยมศึกษาโดยทั่วไปได้แก่ ภาษาอังกฤษ คณิตศาสตร์ สังคมศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ศิลปศึกษา (ดนตรี ศิลปะ งานประดิษฐ์และการละคร) และสุขศึกษา (รวมถึงพลศึกษาและการพัฒนาบุคลิกภาพ) ภาคการศึกษาของระดับประถมศึกษา

• มัธยมศึกษาตอนต้น (Junior Colleges) คือ Year 7 หรือ Year 8 – Year 10
• มัธยมศึกษาตอนปลาย (Senior Colleges) คือ Year 11 และ Year 12

ระบบการศึกษาอื่น ๆ ในออสเตรเลีย
ระบบ International Baccalaureate (IB) คือ นักเรียนจะได้ปลูกฝังให้ได้เรียนรู้ในทุกด้านทางวิชาการเช่น วิทยาศาสตร์, คณิตศาสตร์ และ คอมพิวเตอร์, ภาษาที่ 1 และ 2, ศิลปะ และการพัฒนาตนเอง นักเรียนจะมีโอกาสที่จะพัฒนาศักยภาพของตนในด้านการทำงานร่วมกับผู้อื่น การเสริมทักษะการเป็นผู้นำ เป็นต้น

ประเภทของโรงเรียนมัธยมในออสเตรเลีย และค่าใช้จ่ายในการเรียน
การศึกษาในโรงเรียนจะใช้เวลาทั้งหมด 13 ปี ตั้งแต่เตรียมอนุบาลไปจนถึงมัธยมศึกษาตอนปลาย และเป็นการศึกษาภาคบังคับจนอายุ 16 ปี ประเภทของโรงเรียนที่มีในออสเตรเลีย รวมถึงโรงเรียนของรัฐบาล โรงเรียนที่ไม่ใช่ของรัฐบาล (รวมโรงเรียนสอนศาสนา เช่น คาทอลิก และอิสลาม) และโรงเรียนที่อยู่บนพื้นฐานของการศึกษาปรัชญาการศึกษา เช่น Montessori และ Steiner โรงเรียนทั้งหมดจะต้องลงทะเบียนกับแผนกการศึกษาของรัฐหรือเขต และต้องเป็นไปตามข้อกำหนดของรัฐบาลในแง่ของโครงสร้างพื้นฐานและการขึ้นทะเบียนครู
โรงเรียนออสเตรเลียทำมากกว่าการให้ความรู้กับนักเรียน แต่ยังเตรียมความพร้อมให้นักเรียนได้รู้จักชีวิต พัฒนาการด้านทักษะการสื่อสาร การฝึกฝนตนเอง และความเคารพตัวเอง คนรอบข้างและโลก โรงเรียนมีหลักสูตรที่ครอบคลุมสาขาวิชาที่สำคัญ ได้แก่ ภาษาอังกฤษ คณิตศาสตร์ การศึกษาสังคมและสิ่งแวดล้อม วิทยาศาสตร์ ศิลปะ และภาษาอื่น ๆ นอกเหนือจากภาษาอังกฤษ (LOTE) เทคโนโลยี สุขภาพ และการศึกษาด้านกายภาพ พวกเขายังเชื่อมั่นในประโยชน์ของการศึกษาแบบครอบคลุมรอบด้าน รวมทั้งการทำงานเป็นทีม การแสดงออก และการพัฒนาบุคลิกภาพที่เกิดขึ้นภายนอกห้องเรียน โดยสามารถแบ่งได้ 2 ประเภทหลัก ๆ ดังนี้

• รัฐ New South Wales (NSW) เมืองหลวงคือเมือง Sydney ค่าเทอม/ปี $14,800 – $16,600 (ราคาประมาณ)
• รัฐ Victoria (VIC)  เมืองหลวงคือเมือง Melbourne ค่าเทอม/ปี $14,720 – $15,680 (ราคาประมาณ)
• รัฐ Queensland (QLD) เมืองหลวงคือเมือง Brisbane ค่าเทอม/ปี $14,640 – $18,900 (ราคาประมาณ)
• รัฐ Western Australia (WA) เมืองหลวงคือเมือง Perth  ค่าเทอม/ปี $14,000 – $18,000 (ราคาประมาณ)
• รัฐ South Australia (SA) เมืองหลวงคือเมือง Adelaide ค่าเทอม/ปี $13,000 – $14,000 (ราคาประมาณ)
• รัฐ Tasmania (TAS) เมืองหลวงคือเมือง Hobart ค่าเทอม/ปี $13,000 – $14,000 (ราคาประมาณ)

• Northern Territory (NT) เมืองหลวงคือเมือง Darwin ค่าเทอม/ปี $9,000 – $10,000 (ราคาประมาณ)
• Australian Capital Territory (ACT) เมืองหลวงคือเมือง Canberra ค่าเทอม/ปี $14,500 – $16,200 (ราคาประมาณ)

ประเภทที่พักสำหรับนักเรียนต่างชาติโดยทั่วไปต้องพัก และอยู่ในความดูแลของ Homestay โดยทางรัฐบาลของแต่ละรัฐจะดำเนินการจัดหา Host family ให้โดยจะมีค่าธรรมเนียม ค่าบริการประมาณ $300 ต่อสัปดาห์ รวมอาหาร 16 มื้อต่อสัปดาห์ ยังไม่รวมค่าใช้จ่ายอื่น ๆ อาทิเช่น ค่าจัดหารที่พัก, ค่าบริการรับสนามบิน, ค่าประกันสุขภาพ, ค่า Uniform และค่าใช้จ่ายส่วนตัว เป็นต้น

2. โรงเรียนเอกชน (Independent Schools) โดยจะมีทั้งโรงเรียนสหศึกษา, โรงเรียนชายล้วน และ หญิงล้วน ค่าเทอมต่อปีการศึกษาประมาณ $25,000 ขึ้นไป  โดยประเภทของที่พักจะมีให้เลือกทั้งพักแบบ Homestay ราคาประมาณ $300  ขั้นไป และ แบบโรงเรียนประจำ Boarding School ราคาประมาณ $20,000 ต่อปีการศึกษา รวมอาหารทุกมื้อ ยังไม่รวมค่าใช้จ่ายอื่น ๆ อาทิเช่น ค่าจัดหารที่พัก, ค่าบริการรับสนามบิน, ค่าประกันสุขภาพ, ค่า Uniform และค่าใช้จ่ายส่วนตัว เป็นต้น

 

รัฐควีนสแลนด์ (Queensland)     

การศึกษาของประเทศออสเตรเลียเป็นที่นิยมติดอันดับ 3 ของโลก ประเทศนี้เป็น 1 ในประเทศที่มีความมั่นคง ทางการเมือง และเป็นประเทศที่มีความหลากหลายทางเชื้อชาติ, วัฒนธรรม, อยู่ใกล้ประเทศไทย และประเทศในแถบเอเชียอีกด้วย

• รัฐควีนสแลนด์ (Queensland)มีขนาดพื้นที่รัฐใหญ่เป็นอันดับที่ 2 ของประเทศออสเตรเลีย
• เมืองหลวง คือ เมืองบริสเบน (Brisbane)
• เป็นรัฐที่อัตราการรู้หนังสือและความสามารถทางการคํานวณของนักเรียนสูงที่สุดในประเทศตั้งแต่ปี 2008
• เป็นรัฐที่ประสบความสําเร็จในการปฏิรูปการศึกษาดีเยี่ยม
• ใช้เวลาเดินทางโดยเครื่องบินจากประเทศไทย 9 ชั่วโมง
• มีสายการบินตรงจากไทย คือ การบินไทย และ สายการบินราคาประหยัดอาทิเช่น Air Asia

รัฐควีนส์แลนด์มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้มอบโอกาสให้แก่นักเรียนนานาชาติได้เป็นส่วนหนึ่งของประเทศที่มีเศรษฐกิจที่เติบโตอย่าง รวดเร็ว และมีชื่อเสียงทางด้านการศึกษาติดอันดับชั้นนำของโลกอย่างประเทศออสเตรเลีย

องค์กรการศึกษานานาชาติ รัฐควีนส์แลนด์ (EQI) คือ องค์กร ของรัฐบาลรัฐควีนส์แลนด์ ที่ได้รวบรวมบรรดาผู้เชี่ยวชาญเข้าด้วยกันเพื่อทุ่มเทและตอบสนองความต้องการของนักเรียน นานาชาติและครอบครัว

โรงเรียนรัฐบาลรัฐควีนส์แลนด์ มอบทางเลือกในการศึกษาต่อที่ ดีเยี่ยมให้แก่นักเรียน ด้วยหลักสูตรที่มีให้เลือกหลายเส้นทาง เพื่อให้นักเรียนเดินทางไปสู่ความสำเร็จในการศึกษา อาชีพ และบรรลุจุดหมายปลายทางในการพัฒนาตนเองในสิ่งแวดล้อม ที่พร้อมให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่

ด้วยความเป็นอยู่และสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย, ความเป็นเลฺิศทางวิชาการ, ภูมิประเทศที่สวยงามตามธรรมชาติ, ค่าครองชีพ ที่พอเพียงและมีความเป็นไปได้, รวมไปถึงการใช้ชีวิต และกิจวัตรประจำวันที่ถูกหลักพลานามัย ทำให้รัฐควีนส์แลนด์เป็น ตัวเลือกที่เหมาะสมสำหรับนักเรียนต่างชาติที่ต้องการศึกษาใน ต่างประเทศ

รัฐควีนส์แลนด์มีสภาพภูมิอากาศที่ดีที่สุดในประเทศออสเตรเลีย อีกทั้งยังเป็นที่รู้จักในด้านการใช้ชีวิต และกิจกรรม กลางแจ้งที่หลากหลาย นักเรียนสามารถร่วมกิจกรรมและเป็น ส่วนหนึ่งของงานดนตรี และศิลปะ หรือเพลิดเพลิน และใช้เวลาในวันหยุดสุดสัปดาห์ไปกับการเล่นกีฬา การพักผ่อน และการ ผจญภัย

 

ภูมิอากาศ 

อากาศของเมืองบริสเบนจัดเป็นเขตกึ่งร้อนชื้น ด้วยอุณหภูมิเฉลี่ยรายปีที่ 16 ถึง 25 องศาเซลเซียสบริสเบนได้รับแสงแดดเฉลี่ย 8 ชั่วโมงต่อวันทั้งปี จึงทำให้เป็นเมืองที่มีอากาศอบอุ่นตลอด

• ฤดูใบไม้ผลิ (กันยายน – พฤศจิกายน) : 20 – 26 C
• ฤดูร้อน (ธันวาคม – กุมภาพันธ์)  : 20 – 32 C
• ฤดูใบไม้ร่วง (มีนาคม – พฤษภาคม) : 20 – 25 C
• ฤดูหนาว (มิถุนายน – สิงหาคม) : 18 – 21 C

 

ระบบการศึกษาของรัฐควีนสแลนด์    

  

QCE : Queensland

IB : International Baccalaureate Diploma

ค่าใช้จ่ายอื่น ๆ เพิ่มเติม (โดยประมาณ)	ปี 2024	ปี 2025
ค่าจัดหาที่พัก ( Homestay placement fee)	$ 295	$ 305
ค่าที่พักแบบ Homestay พักครับครอบครัวท้องถิ่น (ต่อสัปดาห์)	$ 339	$ 351
ค่าที่พักแบบ Homestay (1 ปีการศึกษา)	$ 16,272	$ 16,848
Homestay holding fee (ค่ารักษา homestay กรณีกลับไทย)	$ 58	$ 60
Administration fee	$ 756	$ 782
OSHC ค่าประกันสุขภาพนักเรียน (โดยประมาณ)	$ 650	$ 650

 

 

เอกสารการสมัคร และ ผลสอบภาษาอังกฤษที่ต้องการ            

1. สำเนา Passport (ที่มีระยะเวลามากกกว่า 6 เดือนก่อนวันหมดอายุ) และถ่ายสำเนา Passport ทุกเล่มที่มี พร้อมทั้งถ่าย เอกสารประวัติการเดินทางเข้า-ออก ต่างประเทศ และ ถ่ายหน้าวีซ่าของประเทศนั้น ๆ ที่น้อง ๆ เคยเดินทางไป

2. รูปถ่ายสี ขนาด 2 นิ้ว 1 รูป

3. ใบสมัครของ EQI ที่เลือก (Learning Curve เป็นผู้จัดส่งให้นักเรียนกรอก) – สามารถพิมพ์ใน PDF ไฟน์ได้เลย

4. Transcript ผลการศึกษาสูงสุด และหนังสือรับรองคุณวุฒิย้อนหลัง 2 ปีการศึกษา (ฉบับจริงภาษาอังกฤษ)

*เกณฑ์ด้านวิชาการในการสมัครเรียนหลักสูตรเพื่อจบระดับมัธยมศึกษา ต้องสอบได้คะแนนผ่านในรายวิชาหลักทางวิชาการ

5. ผลการสอบ IELTS คะแนนตามชั้นปีที่ต้องการเข้าเรียน สำหรับน้อง ๆ ที่เรียนหลักสูตร International มากกว่า 3 ปีไม่ต้องยื่นผลภาษา

7. เอกสารรับรองการได้รับวัคซีนป้งอกันโรคโควิท 19 (ภาษาอังกฤษ)

8. ค่าประกันการดำเนินการ 5,000 บาท

 

หมายเหตุ :      

1) ระบบการศึกษาของออสเตรเลียจะสมัครนักเรียนตามอายุ

2) กรณีที่จะสมัครเข้าเรียน 2 ปีสุดท่ายคือ Year 11 และ 12 จะต้องเริ่มเรียนในเทอมที่ 1 เท่านั้น คือเดือนมกราคม จะไม่รับนักเรียนเข้าเรียนในเทอม 2, 3 และ 4

 

ข้อมูลทั่วไปของเมือง อะดิเลด (Adelaide)

อะดิเลดเป็นเมืองหลวงของออสเตรเลียตอนใต้เป็นเมืองแห่งวัฒนธรรมและเทศกาล มีการจัดการวางแผนเมืองที่ดีมี ประชากรประมาณ 1.5 ล้านคน มีภูมิอากาศแบบร้อนชื้น ทำให้เป็นเมืองที่มีความอบอุ่น Adelaide มีแหล่งผลิตไวน์ที่ดีที่สุดของออสเตรเลีย มีไร่องุ่นที่ Barossa Valley หาดทราย และความงามริมทะเลของแหลม Fleurieu Peninsula ใกล้ชิดกับฝูงจิงโจ้ โคอาล่า แมวน้ำ เพนกวิน และนกกระทุงในดินแดนแห่งมหัศจรรย์ธรรมชาติของเกาะแคงการู ชมเทือกเขา Flinders Ranges เป็นรัฐที่ มีชื่อเสียงทางด้านผลผลิตทางการเกษตรเพื่อการส่งออก เช่น ข้าวสาลี ข้าวบาร์เลย์ ขนแกะ และไวน์ (ไวน์กว่าครึ่งหนึ่งใน ออสเตรเลียผลิตที่รัฐนี้) โดย Adelaide ตั้งอยู่บนที่ราบระหว่าง The Mount Lofty Ranges และ Gulf St Vincent ทางชายฝั่ง สภาพแวดล้อมที่ร่มรื่นด้วยธรรมชาติและการวางผังเมืองที่ดีทำให้ง่ายแก่การเดินทาง สำหรับคน ต่างถิ่น โดยเป็นที่รู้จักในนาม The 20 minute city เนื่องจากใช้เวลาเดินทางจากตัวเมืองไปเนินเขาหรือชายทะเลประมาณ 20 นาที ส่วนท่าอากาศห่างจากตัวเมืองประมาณ 8 กิโลเมตร มีศูนย์การค้าที่อยู่ในตัวเมืองชื่อ Rundle Mall ซึ่งเป็น Pedestrian mall แห่งแรกในออสเตรเลีย และได้ชื่อว่าเป็นเมืองแห่งเทศกาล ( The Festival State) และภาษาที่ใช้ คือ ภาษาอังกฤษ

• Summer (ช่วงธันวาคม – กุมภาพันธ์ อุณหภูมิ ประมาณ 25 – 35 องศา)
• Autumn (ช่วงมีนาคม – พฤษภาคม อุณหภูมิ ประมาณ 20 – 25 องศา)
• Winter (ช่วงมิถุนายน – สิงหาคม อุณหภูมิ ประมาณ 10 – 15 องศา)
• Spring (ช่วงกันยายน – พฤศจิกายน อุณหภูมิ ประมาณ 20 – 25 องศา)

 

สถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของเมืองอะดิเลด

1. Lofty Summit เป็นจุดชมวิวของเมืองAdelaide ที่สามารถมองเห็นได้ทั้งเมือง ตั้งอยู่บนยอดเขา Adelaide ที่ความสูง 850 เมตรเหนือระดับน้ำทะเลห่างจากเมืองเพียง 20 นาที สัญลักษณ์ของที่นี่คือ หอคอยขนาดสูงที่สวยงาม และยังมีร้านขายของที่ระลึกและร้านอาหารอีกด้วย
2. Cleland Wide life ตั้งอยู่ใกล้กับ Lofty เป็นสวนสัตว์เปิด มีสัตว์ที่มีชื่อเสียงของออสเตรเลียหลายชนิด เช่น จิงโจ้ หมีโคอาล่า สุนัขดิงโก้ เป็นต้น สามารถซื้ออาหารเข้าไปได้
3. Tintara –Estd Hardys 1853 เป็นจุดชิมไวน์ที่มีชื่อเสียงหลายรุ่น หลายยี่ห้อ รวมทั้งเข้าชมกระบวนการผลิตไวน์ พร้อมทั้งจุดจำหน่ายที่ถูกกว่าท้องตลาดทั่วไป
4. Victor Harbor เป็นแหล่งของบ้านพักตากอากาศและพื้นที่ติดชายหาดและเป็นพื้นที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง รู้จักกันดีในนามของ รถม้า เพื่อข้ามไปยังเกาะ Granite Island ซึ่งเป็นเกาะเล็กๆ มีร้านอาหารให้พอพักผ่อนได้ และมีจุดชมปลาวาฬด้วย แต่ปลาวาฬจะมาในหน้าหนาว คือ มิ.ย. – ก.ย.
5. South Australian Museum เป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีผู้เข้าเยี่ยมชมมากที่สุด มีการรวบรวมมรดกทางวัฒนธรรมที่มีอายุมากกว่า 150 ปี ซึ่งเป็นงานที่มีความสำคัญระดับชาติและนานาชาติ ทั้งในส่วน Australian Aborigine Collection และงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์
6. Art Gallery of South Australia ตั้งอยู่ใจกลางเมืองAdelaide ซึ่งใกล้กับ South Australian Museum ก่อตั้งเมื่อปี 1881 โดยในแต่ละปีมีผู้เข้าชมมากกว่า 5 แสนคน โดยมีการรวบรวมงานวาด งานปั้น งานโลหะ ภาพถ่าย และเครื่องเพชรพลอย โดยงานทั้งหมดได้รวบรวมมาจาก 12 ประเทศทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็น Australia, Europe, North America และ South East Asia เปิดทำการทุกวัน เวลา 10.00 น. – 17.00 น. โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ
7. Glenelg Beach ตั้งห่างจากใจกลางเมืองเพียง 10 กิโลเมตร เป็นชายหาดทรายขาวที่ร่มรื่น อีกทั้งยังสามารถชมปลาโลมาและชมทัศนียภาพยามพระอาทิตย์ตกได้อีกด้วย
8. Rundle Mall เป็นศูนย์การค้าใจกลางเมือง Adelaide เป็นศูนย์รวมของการค้าทั้งปลีกและส่ง อีกทั้งยังเป็นที่ตั้งขององค์กรธุรกิจและสำนักงาน เป็นที่รู้จักกันดีว่าสัญลักษณ์ของ Rundle Mall คือ Rundle Ball จะมีลักษณะเป็นลูกบอลเชื่อมติดกัน 2 ลูกในแนวตั้ง เปิดทำการ Monday – Thursday up to 7pm, Friday 9am – 9pm, Saturday 9am – 5pm, Sunday 11am – 5pm.
9. China Town, Adelaide เป็นแหล่งรวมของร้านอาหารและภัตตาคารมากมายหลายเชื้อชาติ ไม่ว่าจะเป็นอาหารไทย จีน เกาหลี ญี่ปุ่น เวียดนาม เป็นต้น อีกทั้งร้านจำหน่ายของฝากและของที่ระลึกราคาถูก รวมถึง Market Plaza, Food court และ Adelaide Central Market ซึ่งเป็นตลาดผัก ผลไม้ขนาดใหญ่อีกด้วย
10. Harbor Town, Adelaide เป็น Shopping Outlet ขนาดใหญ่โดยเป็นศูนย์รวมของสินค้าแบรนด์ดังๆ มากมายหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็น เสื้อผ้าคุณผู้หญิงและคุณผู้ชาย, กระเป๋า, รองเท้า, เครื่องสำอาง Accessories and Jewellery, Supermarket และสินค้าตกแต่งบ้าน เวลาเปิดทำการ วันจันทร์ – พุธและศุกร์ 10.00 น. – 17.30 น., วันพฤหัส 09.00 น. – 21.00 น., วันเสาร์ 09.00 น. – 17.00 น., วันอาทิตย์และวันหยุดอื่นๆ 11.00 น. – 17.00 น.

 

การขนส่งสาธารณะ

ด้วยเครือข่ายการขนส่งสาธารณะขนาดใหญ่ ซึ่งประกอบด้วยรถประจำทาง รถไฟและรถราง ครอบคลุมทั้งเมือง และบริเวณที่เป็นมหานครทั้งหมด แต่ อะดิเลด (Adelaide) ไม่มีระบบการขนส่งใต้ดินสำหรับการเดินทางด้วยการขนส่งสาธารณะ ท่านต้องซื้อตั๋วใช้เดินทางหลายเที่ยว (Multi trip) หรือตั๋วใช้เดินทางเที่ยวเดียว (Single Trip)

 

อะดิเลด (Adelaide) เมืองแห่งการศึกษาที่ดีที่สุด

อะดิเลด ( Adelaide) มีจุดเด่นด้านการศึกษาระดับโลก ความปลอดภัย ค่าครองชีพที่ต่ำกว่าเมืองอื่นๆ และวิถีชีวิตสบายๆแต่มีชีวิตชีวา เป็นที่ทราบกันดีว่า การศึกษาในเมือง Adelaide ไม่เพียงมุ่งเน้นด้านวิชาการ หากแต่ยังส่งเสริมด้านศิลปะ การเรียนรู้และวัฒนธรรมให้แก่นักเรียนทุกคน แล้วทักษะด้านภาษาอังกฤษของท่านจะดีขึ้น และท่านจะเข้าถึงสิ่งอำนวยความสะดวกล่าสุด ด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี ดนตรีและกีฬา นอกจากนี้ ท่านจะได้รับการดูแลเอาใจใส่และความช่วยเหลือที่ท่านจำเป็นต้องมี เพื่อให้ประสบความสำเร็จในการเรียน และเตรียมท่านให้พร้อม สำหรับอนาคตอันสดใสของท่านที่รออยู่ข้างหน้า

โรงเรียนส่วนใหญ่เป็นเพียงโรงเรียนประถมศึกษา หรือโรงเรียนมัธยมศึกษาอย่างเดียว โรงเรียนบางแห่งจัดการศึกษาตั้งแต่ระดับปีแรกเข้าจนถึงชั้นปีที่ 12 หรือเชี่ยวชาญพิเศษ ในการสอนระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย (ชั้นปีที่ 11 -12)

 

ระดับชั้นปี

	ระดับชั้นปี	อายุของนักเรียน
โรงเรียนประถมศึกษา	ปีแรกเข้า – ชั้นปีที่ 7	5 ปี – 12 ปี
โรงเรียนประถมศึกษาตอนต้น	ชั้นปีที่ 8-10	13 ปี – 15 ปี
โรงเรียนประถมศึกษาตอนปลาย	ชั้นปีที่ 8-10	16 ปี – 18 ปี

โรงเรียนส่วนใหญ่เป็นเพียงโรงเรียนประถมศึกษาหรือโรงเรียนมัธยมศึกษาอย่างเดียว โรงเรียนบางเเห่งจัดการศึกษาตั้งเเต่ระดับปีแรกเข้าจนถึงชั้นปีที่ 12 หรือเชี่ยวชาญพิเศษ ในการสอนระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย (ชั้นปีที่ 11-12)

 

ภาคเรียน และวันรับสมัคร ปีการศึกษา 2022

Application Dates

2022	Commencement Date	Last Day for Application	Last Day for Payment
Term 1	31 January 2022	2 November 2021	The deadline for the initial payment will appear on ther Letter of Offer.
Term 2	2 May 2022	1 Feburary 2022
Term 3	25 July 2022	26 April 2022
Term 4	17 October 2022	20 July 2022

*Alternative commencement date are available by negotiation

 

School Term Date

	2022	2023
Term 1	31 January – 14 April	30 January – 14 April
Term 2	2 May – 8 July	1 May – 7 July
Term 3	25 July – 30 September	24 July – 39 September
Term 4	17 October  – 16 December	16 October  – 15 December

ปีการศึกษา ประกอบด้วย 4 เทอม (2 Semesters) และเริ่มเรียนปลายเดือนมกราคมของทุกปี และจบการศึกษาในกลางเดือนธันวาคมของทุกปี และในแต่ละเทอม ประกอบด้วยเวลาเรียน ประมาณ 10 สัปดาห์ แล้วตามด้วยวันปิดภาคเรียน

• โรงเรียนส่วนใหญ่ เปิดเรียนวันจันทร์ – วันศุกร์
• ระหว่างเวลา 08:30 น. – 15:30 น.

 

ระบบการศึกษารัฐเซาท์์ออสเตรเลีย (South Australian)

หลักสูตร และวุฒิ

หลักสูตรออสเตรเลียได้รับการออกแบบมาเพื่อสนองความต้องการ และความสนใจทางวิชาการของนักเรียน และนำทางพวกเขาไปสู่เส้นทางในอนาคตตามอุดมคติของพวกเขา

สาระการเรียนรู้แกนได้แก่ ภาษาอังกฤษ คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ มนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ วิชาศิลปะ ภาษาต่างๆ สุขศึกษาและพลศึกษา เทคโนโลยีและการศึกษาเกี่ยวกับงาน โรงเรียนต่างๆจัดรายวิชาเฉพาะทางและหลักสูตรความสนใจพิเศษกว้างขวางภายในสาระการเรียนรู้แกน ซึ่งท้าทายนักเรียนให้พัฒนาทักษะและสมรรถนะต่างๆที่จำเป็น

รายวิชาเฉพาะทางรวมถึงวิชาชีวิทยาทางทะเล การให้บริการ การโต้คลื่น การศึกษานอกสถานที่ การลีลาศ ดนตรีและการถ่ายภาพ หากท่านต้องการลองเรียนวิชาใหม่ ท่านควรพิจารณาสิ่งนี้เมื่อเลือกโรงเรียนของท่าน

หลักสูตรความสนใจพิเศษมีให้นักเรียนที่มีความสามารถหรือความรักในสาขาวิชาใดโดยเฉพาะ เช่น ภาษา ดนตรี ศิลปะ การแสดงและกีฬา การจะเข้าเรียนหลักสูตรเหล่านี้ได้ นักเรียนอาจต้องมีหลักฐานด้านความถนัด การทดสอบหรือทดลองแสดงก่อนที่จะได้รับเข้าเรียน นอกจากนี้อาจมีค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมพิเศษ

นอกจากนี้ นักเรียนยังสามารถเข้าร่วมทำกิจกรรมเสริมหลักสูตรมากมาย รวมถึง กีฬา วงดนตรี การแข่งขันการออกแบบทางวิศวกรรม การโต้วาทีและการผลิตละคร

 

ประกาศนียบัตรการศึกษาของรัฐเซาท์ออสเตรเลีย (SACE)

SACE เป็นวุฒิทางการศึกษาที่ได้รับการยอมรับจากนานาชาติที่นักเรียนผู้สำเร็จการศึกษาระดับชั้นปีที่ 11  และชั้นปีที่ 12 ในโรงเรียนมัธยมศึกษารัฐเซาท์ออสเตรเลียได้รับ SACE แบ่งออกเป็นสองระยะคือระยะ 1และระยะ 2 ในการวางแผนการ ศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลายของท่าน ท่านจะต้องเรียนจบหลักสูตรตามแผนการเรียนส่วนตัวของท่านในชั้นปีที่ 10 หรือเมื่อท่านเริ่มเรียนชั้นปีที่ 11 ท่านจะต้องเรียนได้ 200 หน่วยกิตเพื่อที่จะได้รับ SACE ด้วยการเรียนวิชาและหลักสูตรต่างๆผสมผสานกันระหว่างวิชาบังคับและวิชาเลือกเสรี นักเรียนที่สำเร็จหลักสูตรชั้นปีที่ 11 ในประเทศของตนเองอาจได้ รับการโอนหน่วยกิตเพื่อรับ SACE ได้ โปรดดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ SACE website

นักเรียนได้รับตำแหน่งการรับเข้าศึกษาในระดับอุดมศึกษาของออสเตรเลีย (ATAR) บนพื้นฐานของผลการเรียนทางวิชาการของนักเรียน  ATAR เป็นที่ยอมรับสำหรับการเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยและสถาบันการศึกษาด้านเทคนิคและการศึกษาต่อของออสเตรเลีย (TAFE) และมหาวิทยาลัยจำนวนมากทั่วโลกใช้ในการคัดเลือกนักศึกษาเข้าเรียนหลักสูตรปริญญา

 

โรงเรียนกับหลักสูตรปรับพื้นฐาน

โรงเรียนรัฐบาลเซาท์ออสเตรเลียไม่เปิดสอนหลักสูตรปรับพื้นฐาน

โรงเรียนเปิดสอนวิชาหลากหลายกว่าและให้การเรียนที่มีความลึกซึ้งยิ่งกว่า ซึ่งจะเป็นการให้ทางเลือกมากขึ้นสำหรับการศึกษาในระดับมหาวิทยาลัยของท่าน  ที่สำคัญคือ นักเรียนชั้นปีที่ 12 ส่วนมากเรียนวิชาภาษาอังกฤษเป็นภาษาเพิ่มเติม (EAL) เพื่อเตรียมพร้อมในการศึกษาระดับมหาวิทยาลัยที่แข็งแกร่งและทำให้นักเรียนสามารถเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยได้ โดยไม่ต้องใช้คะแนนจากระบบการทดสอบความสามารถด้านภาษาอังกฤษนานาชาติ (IELTS)

นอกจากนี้ โรงเรียนของเรายังให้การดูแลและการสนับสนุนเป็นการส่วนตัวแก่นักเรียน เพื่อช่วยท่านให้ประสบความสำเร็จในการศึกษาของท่าน รวมถึงการสนับสนุนในห้องเรียนและการให้คำปรึกษาส่วนตัว วิชาและเส้นทางการเรียนของท่าน ทุกโรงเรียนมีผู้จัดการหลักสูตรสำหรับนักศึกษานานาชาติที่อุทิศตนให้กับความสำเร็จ ความปลอดภัยและความผาสุกของท่าน

 

ตัวอย่างโรงเรียนที่มีชื่อเสียงของ SOUTH AUSTRALIAN GOVERNMENT SCHOOLS

• Adelaide High School
• Banksia Park International High School
• Glenunga International High School
• Henley High School
• Marryatville High School
• Victor Habor High School

 

ที่พัก

การพักอยู่กับครอบครัวโฮมสเตย์ ที่ดูแลให้ความสนับสนุนจะช่วยให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดี หากท่านอายุตั้งแต่ 12 ปีขึ้นไป เราจะจัดที่พักแบบโฮมสเตย์ให้ท่าน นอกจาก ท่านจะเลือกที่จะอยู่กับญาติ หรือเพื่อนของครอบครัวของท่านเอง

ครอบครัวโฮมสเตย์ทั้งหมดของเรา ได้ผ่านการคัดเลือกมาแล้วเป็นรายๆไป เพื่อให้การต้อนรับในฐานะเจ้าบ้านที่ดีแก่นักเรียนต่างชาติทุกคน ก่อนที่จะได้รับการรับรองนั้น แต่ละครอบครัวจะผ่านการสัมภาษณ์ เพื่อให้เราเข้าใจในความสนใจและวิถีชีวิตของพวกเขาก่อน ยิ่งไปกว่านั้น สมาชิกของแต่ละครอบครัวที่มีอายุมากกว่า 18 ปีขึ้นไป จะผ่านการตรวจสอบประวัติอาชญาการ เพื่อให้แน่ใจในความปลอดภัยของสิ่งแวดล้อมที่บ้าน

เรามุ่งหวังที่จะจับคู่ที่ดีที่สุดระหว่างครอบครัวโฮมสเตย์ กับนักเรียน เพื่อให้ทุกคนได้รับผลประโยชน์ จากประสบการณ์นี้ เมื่อเราจับคู่ท่านกับครอบครัวโฮมสเตย์ที่เหมาะสม เราจะคำนึงถึงความต้องการแต่ละอย่างของท่านด้วย

 

Metropolitan Area (เขตเมืองหลวง)

Regional Area (เขตพื้นที่ส่วนภูมิภาครอบนอก)

โรงเรียน	จำนวนนักเรียนของปีการศึกษา 2020	เมือง (City)	หลักสูตร	ค่าเล่าเรียน / 1 ปีการศึกษา ค.ศ. 2020
SA Schools – Metropolitan Area			HS Programs	Tuition Fees (Academic Year)
Gawler and District College	1200	Evanston	SACE	Year 7 : $13,600
				Year 8-10 : $13,600
				Year 11-12 : $15,000
			IB (start 2022)	Year 11-12 : 16,750
Mount Barker High School	520	Mount Barker	SACE	Year 8-10 : $13,600
				Year 11-12 : $15,000

 

หมายเหตุ : ค่าเล่าเรียนอาจจะมีการเปลี่ยนแปลง

SACE : South Australian Certificate of Education

IBMYP : International Baccalaureate Middle Years Programme

IB : International Baccalaureate Diploma

 

 

เกริกฤทธิ์ สายยาว (พี่โอ)

Education Consultant

Direct Mobile No. : +66(97) 965-9928 หรือคลิกปุ่ม

Line ID : @learningcurve หรือคลิกปุ่ม

Line@Learning Curve