Sprachcaffe Toronto

Sprachcaffe Languages Plus เรียนภาษาอังกฤษที่ โตรอนโต้

โรงเรียนตั้งอยู่ในย่านใจกลางเมืองโตรอนโต้ ที่เรียกว่า Old Town Toronto ใกล้หัวมุมถนนอดิเลด และถนนเชิช ซึ่งไม่ไกลจากสถานีรถไฟใต้ดิน King Station โรงเรียนอยู่ใกล้กับถนน Yonge ซึ่งเป็นถนนที่ยาวที่สุดในโลกเพียง 2 บล็อกเท่านั้น จากโรงเรียน นักเรียนสามารถเดินไปที่อาคาร CN Tower, Edton Center, Rogers Center, Air Canada Centre และ Harbourfront นอกจากนี้การเดินทางด้วยรถสาธารณะก็สะดวกสบาย ไม่ไกลกับสนามกีฬา (MLB,NHL,NBA) ศูนย์การแสดงดนตรีและคอนเสิรต์ โรงเรียนมี 8 ห้องเรียน คอมพิวเตอร์ พร้อมอินเตอร์เน็ตไร้สาย ห้องนั่งเรียน ห้องนั่งเล่น ครัว และอุปกรณ์การเรียนต่างๆ

โตรอนโต้มีประชากรกว่า 5 ล้านคน โตรอนโต้จึงเป็นเมืองที่มีประชากรจากหลากหลายเชื้อชาติมาอยู่รวมกันมากที่สุดในโลก 40% ของประชากรเป็นคนช่างชาติที่เข้ามาอาศัยอยู่ โตรอนโต้เป็นเมืองที่สะอาดที่สุดและปลอดภัยที่สุดในอเมริกาเหนือ ความเป็นมิตรของผู้คนที่นี่เป็นที่รู้กันดีทั่วโลก โตรอนโต้มี 4 ฤดูแต่ละฤดูมีสภาพอากาศที่แตกต่างกันมากและเป็นเมืองที่มีวัฒนธรรมหลากหลาย มีมหาวิทยาลัยและวิทยาลัยหลายแห่ง รวบทั้งมหาวิทยาลัยที่ใหญ่ที่สุดในแคนาดาด้วย การผสมผสานกันระหว่างชนหลายเชื้อชาติทำให้โตรอรโต้มีชีวิตกลางคืนที่มีสีสันและร้านอาหารให้เลือกหลายชาติ นักเรียนมีโอกาสมากมายที่จะได้ศึกษาชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนต่างวัฒนธรรมที่นี่ เช่น การเดินเที่ยวชมเมือง เยี่ยมชมพิพธภัณฑ์และหอศิลป์ ดูภาพยนตร์ ชมสถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อเช่น ตึก CN Tower, Ontario Place, Harbourfront และ Casa Loma หรือในฤดูร้อนก็ไปนั่งเรือแคนูเที่ยวชมสวน Algonquin หรือนั่งรถไปเที่ยวที่น้ำตกไนแองการ่าเล่นสกีที่บูลเมาเท่นหรือไปเที่ยวเมืองออตตาว่าในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ โตรอนโต้จัดเทศกาลภาพยนตร์กว่า 30 งานต่อปีและจัดงานด้านศิลปวัฒนธรรมนานาชาติอีกหลายงาน ดังนั้นนักเรียนจึงมีกิจกรรมมากมายให้เลือกทำนอกเวลาเรียน

เรามุ่งสู่เป้าหมายทางภาษาของผู้เรียน!!!

ไม่ ว่าคุณกำลังมองหาหลักสูตรการเรียนแบบระยะสั้น หรือระยะเวลายาวการเรียนพร้อมกับการได้ท่องเที่ยว คุณต้องการเรียนภาษาเพื่อความก้าวหน้าของหน้าที่การงาน มาเรียนกับเราคุณสามารถเลือกเรียนได้ตามที่ต้องการ เรามีหลักสูตรเตรียมสอบเพื่อคุณจะได้นำคะแนนสอบไปใช้ในการสมัครเข้าเรียนใน มหาวิทยาลัยในประเทศต่างๆ และหากว่าคุณสนใจที่จะสมัครเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัย เรามีทีมงานที่พร้อมจะให้คำแนะนำ ระยะเวลาที่คุณเรียนอยู่ในต่างประเทศจะเป็นช่วงเวลาที่ดีที่ได้เปิดโลกทัศน์ ได้เรียนรู้และเข้าใจคนจากต่างวัฒนธรรม สำหรับเยาวชนที่มาเรียนต่อ หรือทำงานในต่างประเทศ ห่างจากการดูแลของผู้ปกครองก็จะได้สัมผัสประสบการณ์ใหม่ได้เรียนรู้ทักษะ ใหม่ๆ เป็นการเสริมสร้างความมั่นใจ ความเป็นผู้ใหญ่และความเป็นตัวของตัวเอง

• Semi – Intensive Course เรียนแบบมาตรฐาน

เป็น การเรียนแบบผสมผสานระหว่างการเรียน และการพักผ่อนอย่างลงตัว เวลาเรียน 4 คาบเรียน ในหนึ่งวันจะทำให้การเรียนภาษาได้ผลมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเรียนในช่วงเช้าหรือบ่าย ทำให้คุณมีเวลาว่างในการทำกิจกรรม และท่องเที่ยวในสถานที่ต่างๆ เรียนขั้นต่ำ สัปดาห์ (20 บทเรียน/ 15 ชั่วโมง/สัปดาห์ – 1 คาบเรียน = 45 นาที)

• Intensive Course เรียนแบบเข้มข้น

ถ้า คุณต้องการเรียนภาษาแบบเข้มข้นเน้นฝึกภาษาอย่างมีประสิทธิภาพและได้ผล การเรียนแบบนี้จะช่วยคุณให้มีพัฒนาการทางภาษาได้อย่างรวดเร็ว (30 บทเรียน/ 22.5 ชั่วโมง/สัปดาห์ – 1 คาบเรียน = 45 นาที)

• Super – Intensive Course เรียนแบบเข้มข้นพิเศษ

เป็น การเรียนแบบเข้มข้น วัตถุประสงค์เพื่อการเตรียมพร้อมในการศึกษาต่อ โดยเรียนวันละ 8 คาบเรียน เพื่อความพร้อมสูงสุดในการเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัยเรียนแบบกลุ่มย่อย (40 บทเรียน/ 30 ชั่วโมง/สัปดาห์ – 1 คาบเรียน = 45 นาที)

• เรียนแบบกลุ่มย่อย

การ เรียนกลุ่มย่อยนักเรียนจะเรียนร่วมกันเป็นกลุ่มเล็กไม่เกิน 6 คน จะจัดการเรียนตามความสนใจของผู้เรียนแต่ละคน การเรียนแบบนี้จะทำให้นักเรียนได้เรียนอย่างเต็มที่ในส่วนที่นักเรียนต้อง การพัฒนาจริงๆ และมีเวลาครึ่งวันสำหรับทำกิจกรรมต่างๆ (20 บทเรียน/ 15 ชั่วโมง/สัปดาห์ – 1 คาบเรียน = 45 นาที)

• เรียนภาษาธุรกิจ

การ เรียนแบบนี้เหมาะสมสำหรับผู้สนใจ และนักธุรกิจที่เน้นการใช้ภาษาในการสื่อสารเชิงธุรกิจในการทำงาน เป็นการเรียน 4 บทเรียนในเนื้อหาทั่วไปทางภาษา แล้วต่อด้วยอีก 2 คาบเรียน จะเป็นการเรียนในหัวข้อธุรกิจเฉพาะด้าน ซึ่งรวบรวมคำศัพท์ธุรกิจที่เป็นปัจจุบันในสถานการณ์ต่างๆ และมีความเกี่ยวเนื่องกับการทำงานในภาคธุรกิจ (30 บทเรียน/ 22.5 ชั่วโมง/สัปดาห์ – 1 คาบเรียน = 45 นาที)

• เรียนแบบตัวต่อตัว

การ เรียนภาษาแบบตัวต่อตัวเป็นการเรียนที่ได้ผลเร็ว และมีประสิทธิภาพมากที่สุด ในการเรียนลักษณะนี้จะเน้นที่ความต้องการของผู้เรียนเป็นหลัก ตารางเวลาเรียนก็ยืดหยุ่นให้ผู้เรียนเป็นผู้จัดตารางเองและเลือกว่าจะเรียน วันละกี่คาบเรียน ซึ่งทำให้ผู้เรียนไม่เสียเวลาในการลงเรียนหลักสูตรอื่นๆ ไปพร้อมๆ กันได้ การเรียนแบบนี้เหมาะสมสำหรับผู้เรียนที่มีเวลาน้อย แต่ต้องการเรียนอย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด