Vancouver English Centre
Vancouver English Centre (VEC)
Vancouver English Centre (VEC) คือสถาบันภาษาชั้นนำของแคนาดา และใหญ่ที่สุดในแวนคูเวอร์ ตั้งอยู่ที่ Yaletown ซึ่งเป็นย่านหรูนำสมัยของนครแวนคูเวอร์ สถานที่เรียนกว้างขวาง ด้วยอุปกรณ์ครบครัน มีห้องเรียน 48 ห้อง พร้อมคอมพิวเตอร์แลป 5 ห้อง ด้วยหลักสูตรภาษาที่แบ่งออกเป็น 15 ระดับ โดยสถาบันเป็นสมาชิกของ Languages Canada, ALTO, CFIB, FIYTO, NAFSA, NAFSA, IATEFL, Tourism Vancouver และองค์กรอื่นๆ ที่มีชื่อเสียงในแคนาดา
ที่ตั้ง 250 Smithe St., Vancouver BC V6B 1E7 Canada
– INTENSIVE PROGRAM เรียนภาษาอังกฤษสัปดาห์ละ 26 ชั่วโมง เหมาะกับนักเรียนระดับมัธยมศึกษาและอุดมศึกษาที่ต้องการใช้เวลาช่วงปิดภาคเรียนเพื่อศึกษาพัฒนาทักษะความรู้ด้านไวยากรณ์ การสนทนา และวิชาเลือกอีกมากมาย
– VACATION STUDY PROGRAM เป็นอีกหลักสูตรยอดนิยมสำหรับนักเรียนอายุ 13 ปีขึ้นไป โดยเรียนภาษาอังกฤษช่วงเช้าและร่วมกิจกรรมทัศนศึกษาภาคบ่ายเพื่อพัฒนาทักษะการสื่อสาภาษาอังกฤษและสร้างสัมพันธไมตรีกับเพื่อนนักเรียนต่างชาติ
ใหม่ ! Vancouver English Centre ร่วมกับ Vancouver Premier College of Hotel Management เสนอโปรแกรมเรียนและทำงาน Hospitality Management Diploma Program 1 ปี พร้อม paid co-op 1 ปี พร้อมโอกาสของนักเรียนไทยที่จะได้ Post Graduate Work Permit 3 ปีเต็ม !
โปรแกรมเรียนภาษากับ Vancouver English Centre (VEC) ระยะเวลา 12 – 20 สัปดาห์ (ขึ้นอยู่กับระดับภาษาของนักเรียนแต่ละ ท่าน) เป็นการเตรียมความพร้อม ปรับระดับภาษาสู่ Pathway Program กับ Vancouver Premier College of Hotel Management (VPC) เพื่อศึกษา Hospitality Management Diploma Program โดยเป็นการเรียน course work 1 ปี และทำงานแบบได้รับค่า ตอบแทนอีก 1 ปี กับโรงแรมชั้นนำ
VEC และ VPC: เมื่อสองสถาบันที่เป็นที่สุดของความเป็นเลิศ จับมือกันเสนอโปรแกรมดีๆ สำหรับนักเรียน
VPC เป็น college แห่งแรกของ Vancouver ที่ก่อตั้งเมื่อปี 1998 เพื่อเป็นสถาบันซึ่ง เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน Hotel Management ได้รับมาตรฐาน Private Career Training Institutions Agency of British Columbia (PCTIA), BC Education Quality Assurance (BC EQA) และ Educational Institution of American Hotels & Lodging Association (AHLA) ที่เป็นสถาบัน มาตรฐานการโรงแรมของสหรัฐอเมริกา โดยในระยะเวลา 1 ปี นักศึกษาจะได้ศึกษาทุกขั้นตอนของงานบริการและบริหารโรงแรม เช่น Managing Front Office Operations, Food & Beverage Services, Meetings, Conventions & Expositions and Facilities Management & Design
Vancouver English Centre (VEC) และ Canadian Tourism College (CTC) เปิดตัวโปรแกรมพิเศษสุด สำหรับนักเรียนจากเอเชียที่ตั้
ประสบการณ์ที่ Vancouver English Center (คุณกิ๊ก)
1. ขอแนะนำตัวกับน้องๆ หน่อยคะ
ขอแนะนำตัวก่อนนะคะ พี่กิ๊ก มาเรียนภาษาอังกฤษที่ VEC หลักสูตร 6 เดือน (24 + 2 Weeks) เมืองแวนคูเวอร์ค่ะ พี่รับราชการทำงานอยู่ที่กรมศุลกากร กระทรวงการคลัง เหตุผลหลักๆที่มาเรียนก็เพราะว่างานประจำที่ทำอยู่เป็นงานที่ต้องใช้ทักษะด้านภาษาอังกฤษเป็นหลัก ทั้ง ฟังพูดอ่านเขียน ด้วยความที่เป็นคนกลุ่มมากในประเทศไทยคือ เราพอที่จะสื่อสารได้แต่ถ้าไม่ได้เรียนเอกภาษาอังกฤษมาโดยตรงก็ยากที่จะอ่านและเขียนได้อย่างถูกต้อง ประกอบกับปัจจัยภายนอกที่ประเทศไทยต้องก้าวเข้าสู่ AEC ในปี 2015 ในฐานะข้าราชการคนหนึ่งที่ต้องเตรียมตัวให้พร้อมในการปฏิบัติงานเพื่อประเทศของเรา…..นี่คือเหตุผลใหญ่ๆ ที่ทำให้ตัดสินใจลามาเรียนภาษาโดยใช้ทุนส่วนตัว………..
2. เหตุผลที่เลือกเรียนภาษาที่ VEC ประเทศแคนาดา เพราะอะไรคะ
เหตุผลที่เลือกเรียนภาษาที่ประเทศแคนาดาเพราะเป็นประเทศที่ได้รับการยอมรับในด้านของความปลอดภัยในการดำรงชีวิตลำดับต้นๆ ของโลก อีกทั้งยังเป็นประเทศที่เปิดกว้างในการต้อนรับชาวต่างชาติ เหตุผลที่เลือกเมืองแวนคูเวอร์ก็เนื่องจากเลือกตามสภาพภูมิอากาศที่คิดว่าเหมาะสมกับตัวเองที่สุด เพราะไม่ได้ชอบอากาศหนาวมาก ขอแค่อากาศเย็นสบาย และรู้สึกได้ถึงความปลอดภัย และมีความสุขในการดำเนินชีวิต และเหตุผลที่เลือกเรียนที่ VEC เนื่องจากเป็นสถาบันที่ได้รับการยอมรับเป็นอย่างสูงในเมืองแวคูเวอร์ อีกทั้ง VEC ยังเป็นสถาบันที่มีการสอนหลักสูตรเฉพาะด้านที่ตรงกับความต้องการและสามารถนำไปใช้ในการทำงานในอนาคต นั่นคือหลักสูตร English for Oil & Gas ซึ่งหลักสูตรพิเศษนี้ อีกทั้ง VEC มีส่วนส่งเสริมให้การพัฒนาทักษะของน้องๆได้เป็นอย่างดีเนื่องจากทางสถาบัน VEC ใช้นโยบาย English Zone only น้องๆ จะได้ฝึกฝนการพูดการฟังทั้งในห้องเรียนและนอกห้องเรียนตลอดเวลา
3. การพักอาศัยกับโฮมสเตย์เป็นยังไงบ้างคะ
โฮสต์โดยส่วนใหญ่ใจดีทุกคน…แต่จะต่างกันก็แค่กฎของแต่ละบ้านที่เราต้องปรับตัวซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องแปลกเพราะมันคือเรื่องธรรมชาติไม่ว่าเราไปอยู่ที่ไหนก็ต้องปรับตัวจริงไหมค่ะ เกือบลืมบอกไปค่ะ มาที่นี่ไม่ต้องกลัวลืมรสชาติอาหารไทยนะคะ น้องๆสามารถหาทานได้จากร้านอาหารไทยที่มีอยู่หลายร้านในเมืองแวนคูเวอร์หรือแม้แต่จะซื้อมาทานเองก็สามารถหาได้ง่าย เนื่องจากในร้านเอเชียส่วนใหญ่จะมีการนำเข้าอาหารและเครื่องปรุงที่เป็นที่นิยมของไทย อาทิเช่น มาม่า น้ำปลา พริกขี้หนู หรือแม้กระทั่งใบกระเพรา หรือถ้าน้องๆ มาเรียนแล้วรูสึกเหงาคิดถึงบ้านก็สามารถไปพบปะพูดคุยกับเพื่อนชาวไทยได้ที่วัดไทยในแวนคูเวอร์ได้เป็นประจำทุกอาทิตย์ ซึ่งของแถมที่น้องๆจะได้คือจะได้รับประทานอาหารไทยอร่อยๆจาก คนไทยที่แวะมาร่วมทำบุญเป็นประจำที่วัดค่ะ
4. แล้วการเดินทางจากโฮมสเตย์ไปโรงเรียนเป็นไงบ้างคะ
สำหรับการเดินทางไปเรียนก็เป็นอะไรที่ง่ายและสะดวกมากเนื่องจากระบบการขนส่งของเมืองแวนคูเวอร์เป็นอะไรที่เดินทางง่ายมาก อีกทั้งน้องๆยังสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายได้จากการซื้อตั๋วเดือน และพิเศษสำหรับน้องๆ ที่เป็นเยาวชน ราคาตั๋วเดือนก็จะยิ่งถูกลงไปอีก สำหรับการเรียนก็เข้มข้น สมกับที่ตั้งใจมาเรียนแน่นอน มีการเช็คชื่อเพื่อเป็นการควบคุมคุณภาพมีการเรียนการสอนที่เข้าใจง่ายและที่สำคัญคือมีการบ้านเป็นของที่ระลึกทุกวัน…ซึ่งก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่จะช่วยให้การเรียนของน้องๆมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และมีการเช็คชื่อเพื่อเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับคุณภาพของนักเรียนด้วยค่ะ
5. แล้ววันหยุดสุดสัปดาห์ที่แวนคูเวอร์ส่วนใหญ่คุณกิ๊กทำอะไรบ้างคะ
หลังจากที่เราเข้มข้นกับการเรียนมาทั้งอาทิตย์ เราก็สามารถมีความสุขในวันหยุดเสาร์อาทิตย์ได้อย่างไม่ซ้ำแบบในแต่ละอาทิตย์ เพราะแวนคูเวอร์มีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติเยอะมาก อีกทั้งระบบคมนาคมก็สะดวกสบายน้องๆสามารถเดินทางไปสถานที่ต่างๆได้ฟรี เช่น Grouse Mountain, Gas Town, Granville Island, Stanly Park เป็นต้น ซึ่งมีนโยบายสนับสนุนการท่องเที่ยวของแวนคูเวอร์คือปกติตั๋วเดือนจะมีการจำกัดการเดินทางให้อยู่ภายในโซนพื้นที่ แบ่งเป็น โซน 1 โซน 2 โซน 3 แต่หากเป็นวันหยุดสุดสัปดาห์หรือวันหยุดประจำปี ตั๋วใบเดียวสามารถใช้ได้ทุกโซน ทุกที่ ไม่ว่าจะเป็นรถเมล์ รถไฟฟ้า เรือข้ามฟาก (Sea Bus)
6. แล้วทำไมถึงเลือกใช้บริการกับทาง Learning Curve คะ
เขียนมายาวพอสมควร พี่คิดว่าข้อมูลเล็กๆน้อยๆเหล่านี้น่าจะก่อให้เกิดประโยชน์ให้น้องๆตัดสินใจเรียนได้ง่ายขึ้นนะคะ ในฐานะที่พี่เป็นนักเรียนรุ่นเดอะมาก…อยากจะบอกน้องๆว่า อายุไม่ใช่เรื่องสำคัญ ขอแค่ตั้งใจจริงและจริงจัง ไม่ว่าจะเรียนที่ไหนเมืองอะไร สถาบันไหน ก็ประสบความสำเร็จได้ไม่ยาก แต่อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน นั่นคือบริษัทเอเย่นที่คอยให้คำปรึกษาว่าเราควรเรียนอะไรที่ไหนอย่างไร และคอยดูแลให้คำปรึกษาในทุกเรื่องของการเรียนต่างประเทศ ส่วนตัวพี่ขอแนะนำให้ปรึกษากับ Learning Curve นะคะ เพราะบริการที่ได้รับไม่ใช่ในฐานะผู้ให้บริการกับลูกค้า แต่สิ่งที่ได้รับมันมากกว่านั้น .มันคือความจริงใจในการให้คำปรึกษาและใส่ใจในรายละเอียด สุดท้ายก็คงต้องขอขอบคุณ คุณปูน ในฐานะที่ปรึกษาส่วนตัวในการร่วมกันฝ่าฟันจนสามารถมาเรียนได้อย่างที่ตั้งใจ ขอบคุณค่ะ