ความสำเร็จของ ณัฐกิตติ์ สดากร (น้องภู)
Nathakit Sadakorn ณัฐกิตติ์ สดากร (น้องภู)
Serangoon Secondary School, Singapore
INTO Newcastle, Newcastle Upon Tyne, UK
หลังจากเรียนจบชั้นประถมศึกษา ปีที่ 6 จากเมืองไทย น้องภูก็เตรียมตัวไปสอบเข้าโรงเรียนรัฐบาลที่สิงคโปร์ และสามารถสอบผ่าน AIES ได้เข้าโรงเรียน Serangoon Secondary School ห้อง Expressด้วยวัยเพียง 11 ปี เรียน 4 ปี จบ Secondary Four ได้วุฒิการศึกษาCambridge GCE “O” Level (Cambridge General Certificate of Education Ordinary Level) เมื่อปลายปี 2012 ขณะนี้น้องภูได้ไปเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัยที่ Newcastle ประเทศอังกฤษแล้ว เมื่อเดือนกันยายน 2013
ตลอดระยะเวลา 4 ปีในโรงเรียนมัธยมที่สิงคโปร์ น้องภูได้ทั้งความรู้และวิชาการมาอย่างเต็มเปี่ยมการเรียนการสอนที่สิงคโปร์เน้นให้เด็กต้องคิดเป็น วิเคราะห์เป็น และให้ถอดความคิดออกมาเป็นตัวหนังสือข้อสอบทุกวิชาจะต้องเขียนอธิบายทั้งสิ้น ดังนั้น วิชาภาษาอังกฤษจึงมีความสำคัญมากถ้าภาษาได้เด็กก็จะสามารถเขียนอธิบายตอบวิชาอื่นๆ ได้ตามมาเอง แต่ถ้าภาษาอังกฤษต่ำกว่าเกรด C จะถือว่าเทอมนั้นสอบไม่ผ่าน แม้เต่เด็กสิงคโปร์เองก็มีตกภาษาอังกฤษกัน แล้วสำหรับเด็กไทยที่ไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลักก็จะต้องใช้ความพยายามมากขึ้นหลายเท่า นี่คือมาตรฐานการศึกษาของสิงคโปร์ที่เป็นฐานรากสำคัญในการสร้างคนและเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ประเทศเขาเจริญก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็ว ที่โรงเรียนมีเปิดสอนภาษาจีนกลางให้นักเรียนต่าง ชาติด้วย น้องภูได้ไปเข้าเรียนอยู่ 1 ปี สามารถพูด อ่าน เขียน ภาษาจีน ได้(กลับมาเมืองไทยก็เรียนเพิ่มอีกเล็กน้อยก็ลองสมัครสอบวัดระดับภาษาจีนกลาง HSK ระดับ 4ผลสอบได้ 82% (HSK4 เทียบเท่านักศึกษาจบปริญญาตรี วิชาเอกภาษาจีนของ
นอกจากด้านวิชาความรู้แล้ว น้องภูยังได้เรียนรู้ประสบการณ์ชีวิต สนุกกับการร่วมทำกิจกรรมต่างๆ กับเพื่อนๆ หลายเชื้อชาติด้วยกัน ทำให้ต้องเรียนรู้ในการปรับตัวให้เข้ากับประเพณีและวัฒนธรรมของแต่ละชาติที่แตกต่างมีออกไปทัศนศึกษา ไปเข้าค่าย และสังสรรค์สนุกสนานกันเองอยู่เป็นประจำ ที่โรงเรียนจะเน้นเรื่องระเบียบวินัย ความรับผิดชอบ การตรงต่อเวลา การช่วยเหลือซึ่งกันและกัน รวมทั้งการตั้งเป้าหมายการเรียนของตัวเอง เป็นต้น ครูทุกคนต้องจบปริญญาตรีและเข้าอบรมกับทางกระทรวงศึกษาอีก 2 ปี จึงจะเข้ามาสอนในสาขาวิชาที่ตนเองจบมา ครูประจำชั้นจะดูแลนักเรียนอย่างใกล้ชิด และด้วยความที่น้องภูเป็นเด็กใฝ่เรียน ผลการเรียนของน้องภูอยู่ในเกณฑ์ดีเสมอมา ภูมิใจที่ได้เป็นตัวแทนไปแข่งขันและทำกิจกรรมให้แก่โรงเรียนอยู่เสมอเคยสอบได้ที่ 1 จนได้รับเลือกเป็นประธานห้องและได้รับข้อเสนอให้สมัครPermanent Residence ของสิงคโปร์ เพื่อเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัยและมีสิทธิประโยชน์อื่นๆอีก
การสอบ GCE“O” Level ปีสุดท้ายของ Secondary Four คือสิ่งที่ท้าทาย ผลคะแนนทั้งระดับชั้นทั่วประเทศจะนำมารวมกันแล้วตัดเกรดทางบ้านต้องส่งกำลังใจไปให้มากหน่อยเนื่องจากน้องภูเครียดพอสมควร ไม่เครียดได้อย่างไรได้เพราะเพิ่งไปเรียนเพียงแค่ 4 ปี ไม่เหมือนตอนสอบ AEIS ที่สอบแข่งกับเด็กชาติอื่นที่ต้องการไปเข้าเรียนที่สิงคโปร์ แต่นี่จะต้องสอบแข่งขันกับเด็กสิงคโปร์เอง ทั้งเด็กจากชาติอื่นที่เคยใช้ภาษาอังกฤษมาก่อนเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แต่ก็ไม่ย่อท้อ มุมานะจนผลสอบออกมา วิชาอื่นๆ ได้เกรด B ส่วนวิชาภาษาอังกฤษได้เกรด C ก็ดีใจอย่างมากแล้ว และก็อย่าได้วิตกกังวลจนกินไม่ได้นอนไม่หลับว่าจะติดสำเนียงแบบสิงคโปร์มา เพราะทุกโรงเรียนก็จะฝึกให้นักเรียนทุกคนพูดภาษาอังกฤษแบบสากลเพื่อไว้ใช้ในการสอบ Oral ของ “O” Level ซึ่งจะมีครูที่ได้คัดเลือกมาตามมาตรฐานของ Cambridge International Examinations มาสอบให้
พอกลับมาเมืองไทย ขั้นต่อไป น้องภูต้องสมัครสอบวัดระดับภาษาอังกฤษIELTS เพื่อเตรียมใช้สมัครเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยที่อังกฤษ ปรากฏว่า เกรด C จาก GCE “O” Level น้องภูทำคะแนน IELTS ได้ถึง 7.5 ขณะที่อายุเพียง 16 ปีเท่านั้นทำให้รู้สึกภูมิใจ และปลื้มใจมาก เป็นข้อสรุปได้ว่าได้ตัดสินใจถูกต้องแล้วที่ให้น้องภูไปเรียนมัธยมที่สิงคโปร์ ทำให้รู้รสชาติของชีวิตมีทั้งหวาน ทั้งขมถ้ามีความพยายาม มานะอดทนเสียอย่าง จะทำอะไรก็ย่อมสำเร็จ
ปัจจุบัน น้องภูอายุ 17 ปี ได้ไปเข้าเรียนFoundation year ที่ INTO Newcastleประเทศอังกฤษ เมื่อเดือนกันยายน 2013 เรียบร้อยแล้วจะต้องเรียน 4 ปี จึงจะจบปริญญาตรี น้องภูมีความสุขมาก ไม่ว่าจะเรื่องเรียน บรรยากาศในมหาวิทยาลัยสภาพแวดล้อมของเมือง Newcastle มีเพื่อนนักเรียนหลายชาติหลายภาษาด้วยกัน เช่น เดนมาร์ก รัสเซีย คูเวต อาเซอร์ไบจัน อินโดนีเซีย สิงคโปร์ เกาหลี ญี่ปุ่น ฮ่องกง ไต้หวัน จีน เป็นต้น น้องภูมีความมั่นใจที่จะพูดคุยกับเพื่อนๆ ไม่มีปัญหาเรื่องภาษาอังกฤษ และยังได้เปรียบที่พูดภาษาจีนกลางได้ด้วย ทั้งนี้เป็นผลจากความรู้และประสบการณ์ที่ได้มาจากการไปเรียนที่สิงคโปร์อย่างเห็นได้ชัด
เส้นทางการศึกษาของน้องภูเริ่มตั้งแต่ไปสอบเข้าโรงเรียนที่สิงคโปร์จนขณะนี้ได้ไปเรียนที่ประเทศอังกฤษแล้วนั้น ได้มีการวางแผนเป็นลำดับขั้นตอนด้วยดีแม้ว่าสมัยนี้เราจะสามารถหาข้อมูลจาก websiteต่างๆ ได้ด้วยตัวเองก็ตาม แต่ยังมีรายละเอียดปลีกย่อยอีกมากมายที่เราอาจจะไม่รู้ หรือคาดไม่ถึง ดังนั้น จึงจำเป็นจะต้องให้ผู้เชี่ยวชาญเข้ามาช่วยเป็นธุระจัดการให้ อย่างนี้ก็จะสะดวกรวดเร็วครบถ้วนและทันกำหนดเวลา ขอขีดเส้นใต้ตรงคำว่าการวางแผนเป็นลำดับขั้นตอนถ้ามีเวลาก็อาจจะร่วมเดินทางไปดูสถานที่ให้เห็นกับตาก่อนก็จะดีมาก
สุดท้ายนี้ ต้องขอขอบคุณอย่างมากคือ Learning Curve โดยเฉพาะคุณนิธิวัฒน์ (พี่ไฝ) ที่ปรึกษาใหญ่ คนสำคัญผู้ให้คำแนะนำและช่วยวางแผนเส้นทางการศึกษาให้น้องภูมาตั้งแต่ต้น ขอขอบคุณพี่บ๊อบบี้ ที่ส่งข่าวสารข้อมูลต่างๆรวมทั้งเป็นห่วงเป็นใยถามทุกข์สุขของน้องภูอย่างสม่ำเสมอขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ของ Learning Curveทุกคน ที่มีส่วนร่วมช่วยจัดการหลายๆ เรื่อง ให้สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดีขอขอบคุณอีกครั้งจากใจจริง และหากมีสิ่งใดที่จะสามารถจะช่วยให้คำแนะนำท่านผู้ปกครองได้ เราทั้งสองก็รู้สึกยินดีอย่างยิ่ง
ขนิษฐา – เชาวลิต สดากร