Leeds Arts University มากกว่า 170 ปีมาแล้วที่มหาวิทยาลัยได้มีส่วนสำคัญในการพัฒนาการศึกษาด้านศิลปะในประเทศอังกฤษ โดยเป็นผู้บุกเบิกแนวทางใหม่ๆ ในการสอนและการวางโครงสร้างวุฒิการศึกษา
ในปี 1846 สถาบันกลศาสตร์แห่งลีดส์ (Leeds Mechanics’ Institute) ซึ่งเปิดสอนหลักสูตรการวาดภาพ ได้ผนวกเข้ากับสถาบันวรรณคดี (Literary Institute) กลายมาเป็นสถาบันศิลปะแห่งลีดส์ (Leeds School of Art) ต่อมาในปี 1903 สถาบันได้ย้ายมายังอาคารบนถนนเวอร์นอนสตรีทของเราในปัจจุบัน อาคารหลังนี้มีการออกแบบที่แหวกแนว โดยสะท้อนให้เห็นถึงลายเส้นที่คมชัดอันเป็นผลมาจากการเคลื่อนไหวด้านศิลปะและหัตถกรรม (Art & Craft Movement) กระเบื้องโมเสคอันงดงามตระการตาที่เมอร์เรียน เซ็นเตอร์ (Merrion Centre) ผลงานของ Eric Taylor (1909 – 1999) ศิลปินและอดีตผู้อำนวยการวิทยาลัยศิลปะแห่งลีดส์ (Leeds College of Art: 1956-1970) ได้รับการติดตั้งไว้ ณ อาคารเบลนไฮม์ วอล์ค (Blenheim Walk) มหาวิทยาลัยลีดส์อาร์ต
หลังสิ้นสุดสงครามโลก อดีตผู้ปฏิบัติงานในกองทัพก็ได้กลับมาศึกษาที่วิทยาลัยกันอย่างล้นหลาม Henry Moore และ Barbara Hepworth (เข้าเรียนในปี 1919 และ 1920 ตามลำดับ) เป็นนักศึกษาในยุคดังกล่าว ในช่วงปลายทศวรรษที่ 1920 สถาบันศิลปะก็เป็นที่รู้จักกันในนามวิทยาลัยศิลปะแห่งลีดส์ และนับจนถึงปี 1946 มีอดีตนักศึกษาจำนวนไม่น้อยกว่า 15 คนที่ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้อำนวยการสถาบันศิลปะ ในขณะที่ชื่อเสียงของเรากว้างไกลยิ่งขึ้น ก็มีการจัดตั้งคณะด้านการออกแบบใหม่ๆ เพิ่มขึ้น ซึ่งรวมถึงเครื่องตกแต่งบ้าน การออกแบบกราฟฟิกและภาพพิมพ์ มีการสร้างโรงผลิตเครื่องปั้นดินเผาและศูนย์ปฏิบัติงานใหม่ๆ และในปี 1959 ก็มีการสร้างห้องสมุดแห่งใหม่ขึ้น
นับตั้งแต่ทศวรรษที่ 1950 จนถึงทศวรรษที่ 1970 ได้มีการประเมินการศึกษาด้านศิลปะในประเทศอังกฤษใหม่ โดยยึดแนวความคิดที่ได้รับการพัฒนาขึ้นที่ลีดส์เป็นส่วนใหญ่ ที่นี่ ทีมศิลปินผู้สร้างสรรค์งานกลุ่มใหญ่ได้ก่อตั้งหลักสูตรการออกแบบขั้นพื้นฐานขึ้น ในขณะนั้น นักศึกษาได้รับการส่งเสริมให้นำวิธีการทางวิทยาศาสตร์มาประยุกต์ใช้ ทำให้พวกเขาสามารถพัฒนาความสามารถด้านการวิจารณ์และความเข้าใจในเชิงสร้างสรรค์ ในช่วงเวลาดังกล่าว โปรแกรมเกรโกรี เฟลโลว์ชิพ (Gregory Fellowship) ซึ่งริเริ่มขึ้นใหม่ที่มหาวิทยาลัยลีดส์ได้ดึงดูดศิลปินผู้สร้างสรรค์งานจำนวนมากมายังลีดส์ โดยศิลปินหลายๆ คนได้มาช่วยงานที่วิทยาลัย ในปี 1960 เราเริ่มเปิดสอนหลักสูตรต่างๆ ซึ่งสนับสนุนวิธีการที่เปิดกว้าง มีความสร้างสรรค์และยืดหยุ่น ซึ่งนำไปสู่ระบบการศึกษาด้านศิลปะแบบใหม่ที่ลีดส์ และต่อมาได้แพร่หลายไปทั่วประเทศ
ในช่วงกลางทศวรรษที่ 1980 อาคารเบลนไฮม์ วอล์คของเราได้ถูกสร้างขึ้น ล่าสุดในปี 2017 สถาบันได้รับการยกสถานะเป็นมหาวิทยาลัยลีดส์อาร์ต ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยที่มีความเชี่ยวชาญด้านศิลปะแห่งเดียวในตอนเหนือของประเทศอังกฤษ การปรับปรุงพัฒนาและการก่อสร้างใหม่ๆ ยังคงดำเนินต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน เพื่อประโยชน์ต่อนักศึกษาทุกคนของเรา
ทางมหาวิทยาลัยได้รับการโหวตเรื่องความพึงพอใจจากนักศึกษาถึง 87% โดย National Student Survey ซึ่งเป็นสถิติที่สูงที่สุดสำหรับมหาวิทยาลัยสายศิลป์ในสหราชอาณาจักร Leeds Art ยังได้รับการจัดอันดับจาก the Guardian University Guide League Table 2019 ให้หลักสูตร Design & Craft เป็นอันดับที่ 1 นอกจากนั้นด้านสวัสดิการของนักศึกษายังได้การยอมรับเรื่องคุณภาพถึง 2 ปี (ปี 2014 และ 2016)
ที่ตั้งและวิทยาเขต
Leeds, England (UK)
Leeds เป็นเมืองที่เอื้ออำนวยความสะดวกให้กับนักศึกที่ไปเรียนต่อมากจนกลายเป็น UK’s No. 1 student city โดยเฉพาะนักศึกษาต่างชาติจะได้ใช้ชีวิตนักเรียนศิล์ปในสหราชอาณาจักรอย่างอิ่มเอม มีทั้งศิลปะการแสดงหลายรูปแบบ ศิลปะวัฒนธรรมอันสวยงามเก่าแก่ มีแหล่งท่องเที่ยวช้อปปิ๊งให้เลือกสรร แล้วถ้าอยากเดินทางเข้าตัวเมืองก็นั่งรถไฟไปลอนดอนเพียงแค่ 2 ชั่วโมง
ธรรมชาติและความสงบร่มรื่นย์ก็เป็นอีกจุดเด่นที่นักศึกษาของมหาวิทยาลัย Leeds Art ชื่นชอบ สวนอุทยานต่างๆ หรือตึกโบราณสถานต่างเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เงียบสงบและล้อมรอบด้วยพื้นที่สีเขียว อย่างเช่น Kirkstall Abbey, Golden Acre Park, Hydepark (Woodhouse moor) และ Temple Newsam เป็นต้น
สาขาวิชาที่เปิดสอน
- Animation
- Comic & Concept Art
- Creative Advertising
- Graphic Design
- Fashion Branding with Communication
- Fashion Design
- Fashion Photography
- Filmmaking
- Fine Art
- Graphic Design
- Illustration
- Photography
- Popular Music Performance
- Printed Textiles & Surface Pattern Design
- Visual Communication
หลักสูตรที่โดดเด่น
Leeds Arts University มีชื่อเสียงทางด้าน Art and Design เป็นพิเศษ
สามารถเลือกเรียน Foundation Program Pathway ที่ Bellerbys College Brighton Campus ก่อนเข้าเรียนระดับปริญญาตรีต่อไปได้